ระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการสมัยใหม่ (Modern Management information System)

วันอาทิตย์ที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2561

บทที่ 3
เทคโนโลยีสารสนเทศ
ความหมายของสารสนเทศ
          คือการประยุกต์ใช้คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์โทรคมนาคม เพื่อจัดเก็บ ค้นหา ส่งผ่าน และจัดดำเนินการข้อข้อมูล ซึ่งมักเกี่ยวข้องกับธุรกิจหนึ่งหรือองค์การอื่น ๆ ศัพท์นี้โดยปกติก็ใช้แทนความหมายของเครื่องคอมพิวเตอร์และเครือข่ายคอมพิวเตอร์ และยังรวมไปถึงเทคโนโลยีการกระจายสารสนเทศอย่างอื่นด้วย เช่นโทรทัศน์และโทรศัพท์ อุตสาหกรรมหลายอย่างเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีสารสนเทศ ตัวอย่างเช่น ฮาร์ดแวร์ ซอฟแวร์ อิเล็กทรอนิกส์ อุปกรณ์กึ่งตัวนำ อินเตอร์เน็ต  อุปกรณฺ์โทรคมนาคม การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์  และบริการทางคอมพิวเตอร์ 
-แพลตฟอร์มคอมพิวเตอร์ใช้เพื่อให้บริการคอมพิวเตอร์ที่เชื่อมต่อพนักงานลูกค้าและซัพพลายเออร์เข้ากับสภาพแวดล้อมระบบดิจิตอลแบบต่างๆรวมถึงเมนเฟรมขนาดใหญ่คอมพิวเตอร์ขนาดกลางคอมพิวเตอร์เดสก์ท็อปและแล็ปท็อปรวมทั้งบริการคอมพิวเตอร์เมฆแบบใช้มือถือและแบบรีโมตแบบพกพาซอฟต์แวร์แอพพลิเคชัน
-การให้บริการซอฟต์แวร์แอพพลิเคชันรวมถึงบริการซอฟต์แวร์แบบออนไลน์ซึ่งจะให้ความสามารถในระดับองค์กรเช่นการวางแผนทรัพยากรขององค์กรการจัดการความสัมพันธ์กับลูกค้าการจัดการห่วงโซ่อุปทานและระบบการจัดการความรู้ที่ทุกหน่วยงานใช้ร่วมกัน
-โทรคมนาคม บริการโทรคมนาคมที่ให้ข้อมูลเสียงและวิดีโอเชื่อมต่อกับพนักงานลูกค้าและซัพพลายเออร์
-การจัดการข้อมูล  บริการจัดการข้อมูลที่เก็บและจัดการข้อมูลขององค์กรและให้ความสามารถในการวิเคราะห์ข้อมูล

connection between the firm it infrastructure and business capabilities


         บริการที่สามารถให้บริการแก่ลูกค้าซัพพลายเออร์และพนักงานเป็นหน้าที่โดยตรงของโครงสร้างพื้นฐานด้านไอทีโครงสร้างพื้นฐานนี้ควรสนับสนุนกลยุทธ์ทางธุรกิจและระบบสารสนเทศของ บริษัทเทคโนโลยีสารสนเทศใหม่ ๆ มีผลกระทบอย่างมากต่อกลยุทธ์ทางธุรกิจและไอทีตลอดจนบริการที่สามารถให้บริการแก่ลูกค้าได้
วิวัฒนาการด้านไอที
1. เมนเฟรมคอมพิวเตอร์ทั่วไปและยุคมิคคอมพิวเตอร์  
       คือ คอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ที่ใช้ในองค์กรเพื่อประมวลผลข้อมูลจำนวนมาก เช่น สำมะโนประชากร สถิติผู้บริโภค การบริหารทรัพยากรขององค์กร    
            ระบบคอมพิวเตอร์ของเครื่องเมนเฟรมมีประสิทธิภาพเพียงพอที่จะรองรับผู้ใช้ได้หลายร้อยคนพร้อม ๆ กันซึ่งผู้ใช้เหล่านั้นอาจจะนั่งทำงานอยู่ใกล้เครื่องเมนเฟรมหรืออาจจะอยู่ที่อื่นซึ่งไกลออกไปก็ได้เครื่องเมนเฟรมจะเก็บโปรแกรมของผู้ใช้เหล่านั้นไว้ในหน่วยความจำหลักและมีการสับเปลี่ยนหรือสวิทซ์การทำงานระหว่างโปรแกรมต่างๆ เหล่านั้นอย่างรวดเร็วโดยที่ผู้ใช้จะไม่รู้สึกเลยว่ามีการสับเปลี่ยนการทำงานไปทำงานของคนอื่นอยู่ตลอดเวลาเนื่องจากคอมพิวเตอร์ทำงานได้เร็วกว่ามนุษย์มากหลักการที่เครื่องเมนเฟรมสามารถทำงานหลายโปรแกรมพร้อมๆกันนั้น เรียกว่า "มัลติโปรแกรมมิง" (multiprogramming)
2.ยุคคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล
            เครื่องพีซีอาจเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ใช้ประจำบ้าน (home computer) หรืออาจพบใช้ในงานสำนักงานที่มักจะเชื่อมต่อกันเป็นระบบเครือข่ายท้องถิ่น (local area network) ลักษณะเด่นจะเป็นเครื่องที่ถูกใช้งานโดยคนเพียงคนเดียว ซึ่งต่างจากระบบประมวลผลแบบ batch processing หรือ time-sharing ที่มีความซับซ้อน ราคาแพง มีการใช้งานจากคนหมู่มากพร้อม ๆ กัน หรือระบบประมวลผลข้อมูลขนาดใหญ่ที่ต้องการทีมทำงานเต็มเวลาคอยควบคุมการทำงาน

ผู้ใช้ "PC" ในยุคแรกต้องเขียนโปรแกรมขึ้นใช้งานเอง แต่มาในปัจจุบัน ผู้ใช้มีโปรแกรมให้เลือกใช้ที่หลากหลายทั้งแบบที่ซื้อขายเชิงพาณิชย์และไม่เชิงพาณิชย์ ซึ่งล้วนแล้วแต่ติดตั้งได้ง่าย
คำว่า "คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล" เริ่มมีใช้ตั้งแต่ พ.ศ.2515 (ค.ศ. 1972) สำหรับกล่าวถึงเครื่อง Xerox PARC ของบริษัท Xerox Alto อย่างไรก็ตามจากความประสบความสำเร็จของไอบีเอ็มพีซี ทำให้การใช้คำว่า คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลหมายถึง เครื่องไอบีเอ็มพีซี
3.ยุคของเซิร์ฟเวอร์ไคลเอ็นต์  
ในคอมพิวเตอร์ไคลเอ็นต์ / เซิร์ฟเวอร์คอมพิวเตอร์เดสก์ท็อปหรือแล็ปท็อปที่เรียกว่าไคลเอ็นต์เชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์เซิร์ฟเวอร์ที่ให้บริการและความสามารถแก่ลูกค้าการประมวลผลคอมพิวเตอร์แบ่งออกเป็นสองประเภทนี้ไคลเอ็นต์เป็นจุดเข้าใช้งานโดยที่เซิร์ฟเวอร์มักจะประมวลผลและเก็บข้อมูลที่ใช้ร่วมกันทำหน้าที่เว็บเพจหรือจัดการกิจกรรมบนเครือข่ายเซิร์ฟเวอร์ระยะหมายถึงทั้งแอพพลิเคชันซอฟต์แวร์และคอมพิวเตอร์ทางกายภาพที่
4.Enterprise Computing Era
     เทคโนโลยีเครือข่ายอินเทอร์เน็ตเทคโนโลยี Transmission Control Protocol / Internet Protocol (TCP / IP) ช่วยให้องค์กรต่างๆสามารถเชื่อมโยงอุปกรณ์และเครือข่ายท้องถิ่น (LANs) ที่แตกต่างกันไปสู่เครือข่ายองค์กรเดียวได้    สภาพแวดล้อมการประมวลผลแบบบูรณาการช่วยให้การรวบรวมและการกระจายข้อมูลได้รวดเร็วและราบรื่นมากขึ้น
5.คลาวด์และยุคคอมพิวเตอร์มือถือ
      คือบริการที่ครอบคลุมถึงการให้ใช้กำลังประมวลผล  หน่วยจัดเก็บข้อมูล  และระบบออนไลน์ต่างๆจากผู้ให้บริการ เพื่อให้ลดความยุ่งยากในการติดตั้ง ดูแลระบบ ช่วยประหยัดเวลา และลดต้นทุน ในการสร้างระบบคอมพิวเตอร์และเครือข่ายเองซึ่งก็มีทั้งแบบบริการฟรีและแบบเก็บเงิน
วิวัฒนาการของผู้ใช้เทคโนโลยี
 1. กฎหมายของมัวร์และกำลังประมวลผลของไมโครโพรเซสเซอร์ มัวร์ลดอัตราการเติบโตลงเป็นสองเท่าทุก ๆ สองปี
•กฎหมายฉบับนี้จะถูกตีความในหลาย ๆ ด้าน
(1) พลังของไมโครโพรเซสเซอร์จะเพิ่มขึ้นทุกๆ 18 เดือน
(2) กำลังการใช้คอมพิวเตอร์เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าทุก 18 เดือน
(3) ราคาของคอมพิวเตอร์ลดลงครึ่งหนึ่งทุก 18 เดือนดิจิทัล

2. กฎหมายว่าด้วยการจัดเก็บข้อมูลดิจิทัลแบบดิจิทัล
   จำนวนข้อมูลดิจิทัลมีการเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าทุก ๆ ปีโชคดีที่ค่าจัดเก็บข้อมูลดิจิตัลลดลงในอัตราร้อยละ 100 ต่อปี
3. กฎหมายและเครือข่ายเศรษฐศาสตร์
   Robert Metcalfe ผู้ประดิษฐ์เทคโนโลยีเครือข่ายอีเธอร์เน็ตในพื้นที่ - อ้างว่าปีพ. ศ. 2513 ว่าค่าหรือพลังของเครือข่ายเพิ่มขึ้นอย่างมากตามจำนวนของเครือข่าย membe •เนื่องจากจำนวนสมาชิกในเครือข่ายเพิ่มขึ้นเป็นเส้นตรงค่าของทั้งเครือข่าย ระบบเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ และยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องในฐานะสมาชิกที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
4. ค่าใช้จ่ายในการติดต่อสื่อสารและอินเทอร์เน็ต
  ลดลงอย่างรวดเร็วในค่าใช้จ่ายในการสื่อสารและการเจริญเติบโตชี้แจงในขนาดของอินเทอร์เน็ต
เนื่องจากค่าใช้จ่ายในการติดต่อสื่อสารลดลงเป็นจำนวนมากและใช้วิธีการต่างๆ
5. มาตรฐานและผลกระทบทางเครือข่าย
   มาตรฐานเทคโนโลยีเป็นข้อกำหนดที่กำหนดความเข้ากันได้ของผลิตภัณฑ์และความสามารถในการสื่อสารในเครือข่าย
•มาตรฐานด้านเทคโนโลยีช่วยปลดปล่อยความประหยัดจากขนาดและส่งผลให้ราคาลดลงเนื่องจากผู้ผลิตมุ่งเน้นผลิตภัณฑ์ที่สร้างขึ้นตามมาตรฐานเดียว
ส่วนประกอบของโครงสร้างพื้นฐานด้านไอที  ประกอบด้วยองค์ประกอบสำคัญ 7 ส่วน
1. แพลตฟอร์มฮาร์ดแวร์คอมพิวเตอร์
 2. แพลตฟอร์มระบบปฏิบัติการ
 3. ซอฟต์แวร์ประยุกต์ขององค์กร
4. การจัดการข้อมูลและที่เก็บข้อมูล
5. แพลตฟอร์มระบบเครือข่าย / ระบบโทรคมนาคม•
6. แพลตฟอร์มอินเทอร์เน็ต
7.การให้คำปรึกษาและบริการการรวมระบบ
ดิจิตอลแพลตฟอร์ม
     สมาร์ทโฟนและคอมพิวเตอร์แท็บเล็ตกลายเป็นวิธีสำคัญในการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตอุปกรณ์เหล่านี้มีการใช้งานมากขึ้นสำหรับการประมวลผลทางธุรกิจรวมทั้งแอพพลิเคชันสำหรับผู้บริโภค 
การบริโภคสินค้าไอที
   ความนิยมใช้งานง่ายและหลากหลายแอพพลิเคชั่นที่มีประโยชน์สำหรับสมาร์ทโฟนและคอมพิวเตอร์แท็บเล็ตได้ก่อให้เกิดความสนใจในการให้พนักงานใช้โทรศัพท์มือถือส่วนบุคคลในที่ทำงานซึ่งเป็นปรากฏการณ์ที่นิยมเรียกกันว่า "นำอุปกรณ์ของคุณมาเอง" (BYOD) แนวโน้มการเปลี่ยนแปลงของ ไอทีประกอบด้วยอุปกรณ์ส่วนตัวสำหรับมือถือไม่ใช่เฉพาะ แต่ยังรวมถึงการใช้บริการซอฟต์แวร์ทางธุรกิจที่เกิดขึ้นในตลาดผู้บริโภคเช่น Google และ Yahoo Search, Gmail, Google Apps, Dropbox
คอมพิวเตอร์เชิงควอนตัม
การคำนวณด้วยควอนตัมเป็นเทคโนโลยีใหม่ที่มีศักยภาพในการเพิ่มประสิทธิภาพการประมวลผลคอมพิวเตอร์อย่างมากเพื่อหาคำตอบสำหรับปัญหาที่ต้องใช้เวลาหลายปีในการแก้ปัญหาคอมพิวเตอร์ทั่วไป    การคำนวณด้วยควอนตัมใช้หลักการของฟิสิกส์ควอนตัมเพื่อแสดงข้อมูลและดำเนินการกับข้อมูลเหล่านี้คอมพิวเตอร์ควอนตัมจะได้รับพลังการประมวลผลมหาศาลผ่านความสามารถในการที่จะอยู่ในสถานะที่แตกต่างกันหลายแห่งพร้อมกันทำให้สามารถดำเนินการได้หลายอย่างพร้อมกันและแก้ปัญหาบางอย่าง
VIRTUALIZATION 
    คือเทคโนโลยีที่ช่วยให้สามารถใช้ Resource เช่น ซีพียู หน่วยความจำ ฮาร์ดดิส ของคอมพิวเตอร์ 1 เครื่องหรือมากกว่านั้นให้สามารถรันซอฟแวร์ หรือแอพพลิเคชั่น ในปริมาณมากๆ หรือแม้แต่รันระบบปฏิบัติการหลายๆตัว ให้สามารถทำงานพร้อมๆกัน  ถึงแม้จะต่างแพลตฟอร์ม
การประมวลผลแบบกลุ่มเมฆ
   เป็นลักษณะของการทำงานของผู้ใช้งานคอมพิวเตอร์ผ่านอินเตอร์เน็ต ที่ให้บริการใดบริการหนึ่งกับผู้ใช้ โดยผู้ให้บริการจะแบ่งปันทรัพยากรให้กับผู้ต้องการใช้งานนั้น การประมวลผลแบบกลุ่มเมฆ เป็นลักษณะที่พัฒนาขึ้นต่อมาจากความคิดและบริการของเวอร์ชั่นชัวไลเซชันและเว็บเซอร์วิซโดยผู้ใช้งานนั้นไม่จำเป็นต้องมีความรู้ในเชิงเทคนิคสำหรับตัวพื้นฐานการทำงานนั้น 

เทคโนโลยีสีเขียว 
      คือ แนวคิดในการบริหารจัดการ และเลือกใช้เทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการการใช้พลังงาน ลดการใช้พลังงาน ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ลดการสร้างขยะ รวมถึงการนำขยะอิเลคทรอนิคส์มารีไซเคิลใหม่อีกด้วย ซึ่งเป้าหมายสูงสุดคือ อุปกรณ์อิเลคทรอนิคส์ หรือขยะอิเลคทรอนิคส์ต้องถูกนำกลับมาใช้ใหม่ได้ทั้งหมด และไม่มีส่วนประกอบที่ทำจากสารพิษ อุปกรณ์อิเลคทรอนิคส์ต้องใช้พลังงานน้อยลง
 เครื่องประมวลผลสมรรถนะสูงและประหยัดพลังงาน 

     โปรเซสเซอร์แบบมัลติคอร์เป็นวงจรรวมที่มีแกนประมวลผลตั้งแต่สองตัวขึ้นไปเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานลดการใช้พลังงานและการประมวลผลงานหลายอย่างพร้อมกันอย่างมีประสิทธิภาพ เทคโนโลยีนี้ช่วยให้สองคนหรือมากกว่าเครื่องประมวลผลที่มีความต้องการพลังงานที่ลดลงและการกระจายความร้อนเพื่อดำเนินการได้เร็วกว่าชิปทรัพยากรที่หิวกับแกนประมวลผลเดียว คุณจะพบกับพีซีที่มีโปรเซสเซอร์หลักและโปรเซสเซอร์แบบ dual-core, quad-core, 6-core และ 8 คอร์และโปรเซสเซอร์ 16 คอร์ 
ส่วนประกอบของคอมพิวเตอร์
1.) ส่วนรับข้อมูล (Input Unit)   เป็น ส่วนประกอบของคอมพิวเตอร์ ที่ทำหน้าที่รับข้อมูลจากคน และส่งต่อข้อมูลไปยัง หน่วยประมวลผล(Process Unit) เพื่อทำการประมวลผลต่อไป รูปแบบการส่งข้อมูลจากอุปกรณ์รับข้อมูลจะอยู่ในรูปของการส่งสัญญาณเป็นรหัสดิจิตอล (หรือเป็นเลข 0 กับ 1) นั่นเอง อุปกรณ์ส่วนรับข้อมูล ได้แก่ 
      - คีย์บอร์ด (keyboard)

    - เมาส์ (mouse)

    - สแกนเนอร์ (scanner)

    - อุปกรณ์สแกนลายนิ้วมือ (finger scan)

   
    - ไมโครโฟน(microphone)

    - กล้องเว็บแคม (webcam)

   2. ส่วนประมวลผลข้อมูล (Central Processing Unit) เป็นส่วนที่ทำหน้าที่ในการประมวลผลข้อมูลที่รับมาจาก ส่วนรับข้อมูล(Input Unit) เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการ อีกทั้งยังทำหน้าที่ในการควบคุมการทำงานต่างๆ ภายในเครื่องคอมพิวเตอร์ 

   3. หน่วยแสดงผล (Output Unit) เป็นหน่วยที่แสดงผลลัพธ์ที่มาจากการประมวลผลข้อมูล ของส่วนประมวลผลข้อมูล โดยปกติรูปแบบของการแสดงผล มีอยู่ 2 แบบ ด้วยกันคือ แบบที่สามารถเก็บไว้ดูภายหลังได้ และแบบที่ไม่มีสำเนาเก็บไว้

    - แบบที่สามารถเก็บไว้ดูภายหลังได้ เช่น เครื่องพิมพ์ (Printer) และ เครื่องพิมพ์ (Printer 

เครื่องพิมพ์ (Printer

- แบบที่ไม่มีสำเนาเก็บไว้ เช่น จอภาพ(Monitor) , เครื่องฉายภาพ(LCD Projector) และ ลำโพง (Speaker)
จอภาพ(Monitor)

4.หน่วยความจำ (Memory Unit) อุปกรณ์เก็บสถานะข้อมูลและชุดคำสั่ง เพื่อการประมวลผลของคอมพิวเตอร์ แบ่งได้เป็น 2 ประเภทใหญ่ ๆ คือ หน่วยความจำชั่วคราวและหน่วยความจำถาวร
      - หน่วยความจำชั่วคราว คือ แรม (RAM: Random Access Memory)เป็นหน่วยความจำที่ใช้ขณะคอมพิวเตอร์ทำงาน ข้อมูลและชุดคำสั่งจะหายไปทุกครั้งที่เราปิดเครื่อง 
แรม (RAM: Random Access Memory)

      - หน่วยความจำถาวรหรือ หน่วยความจำหลัก ได้แก่
ฮาร์ดดิสก์ Hard Disk ที่ใช้ในการเก็บข้อมูล และ รอม (ROM: Read Only Memory) ที่ใช้ในการเก็บค่าไบออส หน่วยความจำถาวรจะใช้ในการเก็บข้อมูลของเครื่องคอมพิวเตอร์และจะไม่สูญหายเมื่อปิดเครื่อง 
ฮาร์ดดิสก์ Hard Disk









ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

บทที่ 8 ระบบสนับสนุนการตัดสินใจ

บทที่ 8 Decision Support System ระบบสนับสนุนการตัดสินใจ      ระบบสนับสนุนการตัดสินใจ คือ ระบบที่ช่วยในการตัดสินใจเกี่ยวกับการจัดการ ...